home
BEC program information
news
BEC community forum
activity
BEC student goverment
student story
BEC family
BEC admission tips
study room
clips
life at Thammasat
links
about BEC community website

 






 

 


BEC program information

- BEC เรียนเกี่ยวกับอะไร ? คำถามยอดนิยม
 
BEC = Business English Communication ซึ่งแปลได้ตามตัวว่า เรียนการสื่อสารเกี่ยวกับธุรกิจ
 โดยจะเน้นทักษะการสื่อสารโดยใช้ภาษาอังกฤษในด้านธุรกิจต่างๆ วิชาเรียนต่างๆ ถูกออกแบบขึ้นเพื่อพัฒนาการฟัง พูด  อ่าน และเขียน ภาษาอังกฤษภายใต้เนื้อหาของธุรกิจ
และวิชาเรียนต่างๆ ของ BEC  จะ้เน้นในเรียนรู้จากสถาณการ์ณจริงที่เกิดขึ้นของโลกทั้งด้าน ธุรกิจ เศรษฐกิจ และ สังคม
  
  ปีหนึ่ง เรียนวิชาที่มหาลัยกำหนด เรียนเหมือนกันหมดทั้งมหาลัย เช่น วิชา ภาษาอังกฤษEG ภาษาไทย
  Humanity, Social Science, Western/Eastern Civilization, Thai civilization , Intregrated science and
  technology, man and arts or man and literature, แล้วก็มีให้เลือกเรียนระหว่าง คอมพิวเตอร์ กับ คณิตศาสตร์   ซึ่งหลายคนที่ไม่ชอบคณิตก้เลือกคอมได้

  ปีสองก็เรียนวิชาพวกที่เรียกว่า Content-Based Core Coursesเป้นพวกวิชาที่ควรเรียนไว้     เพราะเป้นเนื้อหาธุรกิจเบื้องต้น ที่ควรรู้ เช่น
  Business, Business Law Introductory Economics Principles of Management
  Introduction to Advertising and Public Relations Principles of Marketing Cross-Cultural Psychology
  วิชาพวกนี้ อยากจะบอกว่าเรียนสนุกมาก ไม่น่าได้น่าเบื่อ แล้วก็ชิมลางเรียนพวกวิชา English for business  communication 1-2 ไปพลาง

  ปีสามปีสี่นี้ ก็เรียนฺ Business English Communication กันจริงจัง เช่น English for Business   Correspondence,Writing for Electronic Communication, English for Business     Presentation,Linguistics for the Analysis of Business English English for Business Meetings เป็นต้น
  ดาวโหลดดู รายวิชา และคำอธิบายได้ว่าเรียนอะไรยังไง @ http://tubec.org/curriculum2009.pdf

  *** โครงการ BEC ตอนนี้ที่พี่เรียนอยู่ยังไม่มีให้เลือกภาษาที่สาม
  แต่มีช่วงเรียน INtensive 1 เดือน เรียนปรับพื้นฐานตอนเข้ามา ให้เลือกเรียนภาษา เช่น คือมีให้เลือก 4 ภาษาใช่มั้ย    คือ ญี่ปุ่น จีน ฝรั่งเศส รัสเซีย



BEC program information

- BEC เปิดรับสมัครและสอบช่วงไหน ?
  ช่วงเดือนมีนาคม ถึง เมษายน ของทุกปี สามารถซื้อใบสมัครที่ศูนย์หนังสือธรรมศาสตร์ และจุลาฯ
  ราคา 300 และค่าสมัคร 600 / สามารถสมัครโดยตรงได้ที่ มธ.รังสิต หรือ ทางไปรษณีย์
  โดยสามารถดูรายละเอียดกำหนดเวลาการรับสมัครต่างได้ที่ http://tubec.org/

  ที่ผ่านมาสองปี รับจำนวน 90 คน เรียนที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต 4 ปี

- แล้วถ้าจะสมัครต้องทำอะไรอย่างไรบ้าง

1. ต้องมีคะแนน อย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้

IELTS: 5
TOEFL: 500 (paper-based)
or 173 computer-based)
or 61 (internet-based)
TU-GET: 500
SAT (verbal): 350
O-NET (English only): 70%

และที่สำคัญมีอย่างเดียวไม่ได้ ต้องผ่านมีคะแนนผ่านที่เขากำหนดไว้ด้วย หลายคนคิดมาว่าต้องผ่านเยอะ แค่ไหน
ความจริง เอาแค่ให้ผ่านก็โอเคแล้ว เพราะต้องคิดคะแนนรวมกับการสอบข้อเขียน และสัมภาษณ์ด้วย เอาแค่ให้ผ่านไว้เป็นได้ และที่สำคัญ !!!! ถ้าคะแนนไม่ถึง สมัครได้แต่ไม่มีสิทธ์สอบ เขาจะคัดออกครับ

2. มีเอกสารต่างๆ ดังนี้

1. Application form completely filled
2. Transcripts of academic records from all secondary/tertiary schools attended
3. Copies of certificates or diplomas earned
4. A copy of house certificate
5. A copy of identification card
6. Three one-inch photos (in a student uniform)
7. A copy of bank receipt showing the payment of the 600-baht application fees
8. All other supporting documents, such as a letter issued by the Ministry
of Education certifying the status of the school (for those graduating
from an international school in Thailand), a letter issued by the
Ministry of Education certifying that the applicant has completed an
accredited secondary school (or equivalent) course (for those
graduating from secondary schools abroad)

แค่นี้ก็จบเรื่อง เตรียมเอกสารทั้งหมดให้พร้อมแล้วซื้อใบสมัคร กรอกๆ และไปยื่น จบ รอสอบ



BEC program information

- สอบตรง BEC หลังจากรอประกาศผู้สิทธ์สอบ ดูว่าตัวเองมีชื่อไหม
ถ้ามีก็ได้สอบ การสอบ มีสองอย่าง 1. สอบข้อเขียน 2.สอบสัมภาษณ์

1. สอบข้อเขียน มีอยู่ด้วยกันสองส่วน ส่วนแรกเป็นย่อความ ก็ย่อธรรมดาไม่ได้พิสดานอะไร เขาจะให้มา 1 พารากราฟ แล้วให้เราย่อความ ก็ย่อตามที่เราเข้าใจ และที่สำคัญจับใจความให้ได้ว่า เนื้อหา เขาพูดถึงอะไร และเขียนในภาษาของเราเองที่เราเข้าใจ และอย่าลืม main point ของเนื่อเรื่อง ส่วนเนื้อหาส่วนมากจะเป็นเชิงธุรกิจ และก็ไม่ได้อ่านยากมากมาย

ย่อความ เค้าไม่กำหนดจ๊ะว่ากี่คำ แต่มันก็เป็นอะไรที่ให้ทำตามสมควรอะจ๊ะ
บทความไม่ยาวเลย สั้นๆ (จำไม่ได้แหะ ไม่ถึงหน้าด้วยซ้ำมั้ง ใช่ปะเพื่อนๆ?)
ส่วนเรื่องเปลี่ยนเป็นคำตัวเองไหม? มันก็สมควรนะๆ เปลี่ยนบ้างอะไรบ้าง
ตอนพี่ทำ พี่ก็ไม่ได้ซีเรียสว่าจะต้องเปลี่ยนอะไรทุกคำ
เอาแค่อ่านบทความให้เข้าใจ แล้วสรุปออกมาเป็นความเข้าใจของเราอะจ๊ะ อย่าให้เนื้อความเสีย

ส่วนที่สอง คือ เรียงความ ความยาวประมาณ 300 คำ หัวข้อจะเปลี่ยนไปแต่ละปี ก็เขียนแบบ academic writing ธรรมดา แกรมม่า ก็ควรจะเขียนให้ถูก แต่อย่ากังวลจะเกินเรื่องแกรมม่า ทางที่ดีฝึกเขียน เตรียมตัวให้พร้อมดีกว่า ควรหัดเขียนไว้เยอะๆ อ่อ มีเวลาสอบ 3 ซม.

ศัพย์ที่ออก?
ประมาณ Business Vocab น่ะ
จำไม่ได้เหมือนกันนะคะ แต่ว่าไม่ยากเกินไม่ง่ายเกิน
เอาเป็นว่าน้องลองแปลพวกนี้ดู
ถ้ารู้จักก้อไม่ยากเกินหรอก
1. Vision = Question
2. Consumption = Question
3. Dominant = Question
4. Commodity = Question
5. Nationalist = Question
6. Potential = Question
7. Industrial = Question
8. Value = Question
9. Competitive advantage = Question
10. Global = Question

นี้เป้นหัวข้อเรียงความ ตอนสอบเข้าโครงการ BEC
ลองเอาไปหัดเขียนดู เผื่อจะช่วยเตรียมความพร้อม

BEC#1 (2007) - Why do you wish to join this program and what are the benefit you expect to gain from BEC?
BEC#2 (2008) - Do you think extra curricular activitity is important?

2. สอบสัมภาษณ์ คนสัมภาษณ์จะเป้นอาจาร์ยไทยและเทศ
เขาก็ถามเรื่องทั่วไป ชื่อไร เรียนไหนมา ชอบกินไร ฯลฯ ไปเรื่อยๆ น้องก็ตอบไปตามที่เขาถาม
อาจจะถามเกี่ยวกะธรรมศาสตร์นิดนึงค่อยๆตอบๆ ใจเย็นๆ ไม่เข้าใจก็ถามอาจารย์เอาอีกที
มีหลายคำถามที่จะถามความคิดเห็น เช่น ถ้าคุณสามารถเปลี่ยนโลกได้จะเปลี่ยนอะไร ว่าไป ไม่ต้องกลัวว่าจะตอบผิด ตอบถูก เขาอยากเห้นการพูดของเรา มั่นใจเราตัวเองเข้าไว้

อีกนิดขอเสริมคือพี่จะบอกว่าถ้าเจอหินๆแบบพี่เข้าจะ ถามเรื่องเหตุการณืปัจจุบันด้วยอะไรแบบประมาณhottopicอะเวลาใกล้ๆสัมภาษณ์ลอง
ตามข่าวดูบ้างก็ดีเน้อ แต่ก็ไม่ต้องเครียดมากนะ
น้องก็ใจเย็นเวลาตอบต่อให้เจอคำถามที่เราไม่มีไอเดียพยามตอบให้คลุมเครือ อย่าtake stand ในสิ่งที่เราไม่มั่นใจ ให้มันดูครอบจักรวาลเข้าไว้ ประมาณว่าเราุรู้ แต่จริงคือเราุไม่รู้หรอก 555

 



BEC program information

- อยากทราบว่า..คะแนนที่ยื่นมีผลกับคะแนนสอบข้อเขียนเป่าค่ะ?

คะแนนที่ยื่นไม่มีผลต่อการสอบนะคะ คะแนนที่ยื่น เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่หมายความว่า
น้องมีสิทธิสอบข้อเขียน และ สัมภาษณ์ของโครงการค่ะ
คะแนนที่ยื่นจะดีเว่อร์ หรือ หลุดรุ่ย มันก็แค่ใช้ตอนยื่นเฉยๆน่ะค่ะจะไปวัดกันก็ ตรงสอบข้อเขียน และ สัมภาษณ์ค่ะ

เปอร์ เซนต์สอบข้อเขียนน่าจะเยอะกว่านะค่ะแล้วก้เอามา รวมกันแล้ว ไล่จากมากสุดไปเรื่อยๆค่ะ
90 คน ตัวจริง แล้ว ก้จะมีตัวสำรองประมาณ 30 คน



BEC program information

- พี่ๆ จบไปแล้วทำงานไรได้บ้างอ่ะครับ

จะ บอกว่าทำได้ทุกอาชีพอะน้องยกเว้น พวกอาชีพที่ต้องจบมาเฉพาะทาง เช่น ทนาย หมอ วิศวะ เพียงแต่ถ้าน้องจบไปทำธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจข้ามชาติละก็ น้องจะรู้สึกว่าคุ้มกับที่อุตส่าห์เรียนโครงการนี้มาไงคะ

เพื่อให้มันเห็นภาพชัดขึ้นก็คือ
อาชีพทุกอาชีพที่ต้องการคนมีทักษะทางภาษาอังกฤษ
น้องสามารถทำได้หมดค่ะ
แล้วถ้าเป็นอาชีพที่ต้องการทักษะการเจรจา ติดต่อ สื่อสาร ด้านธุรกิจแล้วด้วยละก็
น้องทำได้หมดค่ะ
เพราะ BEC เราคือ .. การสื่อสารภาษาอังกฤษเชิงธุรกิจ
หลังจากจบโครงการนี้ไป .. ไม่ว่าน้องอยากทำงานด้านไหน .. ความรู้ด้านภาษาอังกฤษเพื่อการทำธุรกิจจะเป็นพื้นฐานที่แน่นเพียงพอให้น้อง ได้นำไปประยุคใช้กับงานและอาชีพที่ใฝ่ฝันค่ะ Smile

คุ้มค่า
กว่านี้
ไม่มี
อีกแล้ว

PR ได ้เลขา ได้ ล่าม ได้
ติดต่อสื่อสารข้ามชาติ ก้อได้...
ไปแข่งทีมชาติยังได้ (ไม่ใช่แล้ว!)

 


BEC program information

- อยากรู้เกี่ยวกับภาษาอังกฤษที่ใช้เรียน ว่าระดับภาษาอังกริดที่ใช้เรียนจริงนั้น
ยากไหม ถ้าจบมาจาก รร. ไทย นี้จะลำบากไหม

ไม่มีอะไรยากเกินไปหรือง่ายเกินไปสำหรับการเรียนระดับมหาวิทยาลัยอยู่แล้วค่ะ

พี่ก็มาจากโรงเรียนไทย และพี่ๆอีกหลายคนก็จบจากโรงเรียนไทย
แต่ก็สามารถเรียนที่นี่ได้อย่างมีความสุข Cool
ถึงแม้เกรดจะ จุด จุด จุด

พี่แนะนำให้น้อง..อย่ากังวล
คิดซะว่าถ้าเราเลือกจะเข้าที่นี่แล้ว
ไม่ว่ามันจะง่ายหรือยาก..ทุกอย่างขึ้นอยุ่กับสิ่งที่ตัวเราทำ

อีกอย่างนึงคือพี่เชื่อว่าสังคมรอบข้างที่ดีจะเป็นตัวช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น
ซึ่งพี่ก็พูดได้ว่า สังคมที่นี่ .. สนุกสนาน มากค่ะ

ถ้าน้องเข้ามาได้..เราก็จะได้เจอกัน Very Happy
แล้วน้องจะเลิกกังวลเรื่องระดับภาษาอะไรแบบนี้ไปเลยค่ะ

 


BEC program information

-
แนะแนวข้อสอบตรง BEC โดยพี่ ส้มโอ BEC#1

สอบตรง
อย่างแรกคือ ต้องมีคะแนนภาษาอังกฤษผ่านเกณฑ์ก่อนนะคะ
ถึงจะมีสิทธิ์สอบข้อเขียน และ สัมภาษณ์
(ถ้าคะแนนไม่ผ่านก็ไม่มีสิทธิ์สอบ)

ส่วนเรื่องการสอบ

สอบข้อเขียน จะมี

1. ย่อความ 1 หรือ 2 เรื่องเนี้ย (จำไม่ได้แล้ว).. แต่ต้องย่อทุกเรื่องเลยค่ะ

2. เขียนเรียงความ (Essay) ความยาวเท่าไร จำไม่ได้อะ ตามโจทย์ที่กำหนดค่ะ

แล้ว วันต่อมา ก็ให้สอบสัมภาษณ์เลย

สัมภาษณ์ ก็แล้วแต่อะนะ ว่าใครจะได้คนไหน
เพราะคนสัมภาษณ์ มีประมาณ 10 คน
ของ เราตอนสอบ เขาก็ถามเกี่ยวกับเรื่องทั่วไป โรงเรียนเก่า ครอบครัว คะแนนที่ใช้ยื่น
(สัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษ)
แต่ได้คุยกับเพื่อนอีกคนที่ไปสอบ เขาบอก
สัมภาษณ์นี่คุยกันสนุกมาก (งง กับมัน)

-------------------
จริงๆ ตอนถามที่คณะ ว่าสอบข้อเขียนจะมีอะไรบ้าง
เขาบอกว่า ให้อ่านข่าวเยอะๆ
แต่พอไปสอบจริงๆ ... ไม่เห็นมีเกี่ยวกับข่าวเลย
แต่มันก็เป็นความรู้เหมือนกันนะ ถ้าอ่านข่าวเกี่ยวกับ ธุรกิจมาจะได้รู้คำศัพท์
ย่อความ เรื่องแรก
เกี่ยวกับ leadership style แปลเป็นไทย
ก็ประมาณ วิธีที่ หัวหน้าปกครองลูกน้อง อะนะ
เวลาสั่งงาน หรือ อะไรประมาณนี้ อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน

** อันนี้ใครที่อ่านข่าวมา หรือเรียน โรงเรียนอินเตอร์ จะด้เปรียบ
เพราะถ้าเรียน business มา ก็จะรู้อยู่ว่า แต่ละ style นั้นเป็นอย่างไร
ทำให้เขียนแล้วง่ายขึ้น เพราะว่ารู้ศัพท์แล้วไง
ไม่ต้อง งง กับบทความมากมาย

เพราะย่อความคือการสรุปความเข้าใจอยู่แล้วอะนะ

เรื่องที่สอง เกี่ยวกับ บทบาทหน้าที่ของผู้หญิงที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน
แล้วก็ มันมีผลดีอย่างไรบ้าง ทั้งต่อผู้หญิง และผู้ชาย

ถ้าจำไม่ผิด ย่อความก็มี 2 เรื่องนี้แหละ
---------------------

อันสุดท้าย เขียนเรียงความ
ถาม ประมาณว่า ทำไมถึงอยากเข้าที่นี่ แล้วคิดว่าต้องการ benefit อะไร จากคณะนี้(โทษนะ คือ ไม่รูจะแปลยังไง โจทย์เป็นภาษาอังกฤษ)
สรุปคือ

ฝึกเขียนเยอะๆค่ะ
เพราะว่า การสอบอินเตอร์ของทุกคณะ
ถ้ามีการสอบเขียนเรียงความ ส่วนใหญ่โจทย์จะถามว่า why do you wish to join this program and what are the benefit you expect to gain (โจทย์จริงของคณะนึง)

เพราะงั้น มันก็เอาไปประยุกต์ใช้กันได้ทุกคณะอะค่ะ

แต่มันก็ขึ้นอยู่กับบางคณะด้วยอะค่ะ ว่าโจทย์เขาถามอะไรมากกว่านั้น

คือ สารภาพว่า สอบตรงไป 3 ที่

ก็เขียน แนวเดียวกันทุกที่อะนะ 55555
ถ้าคนตรวจเป็นคนเดียวกัน คงแบบว่า ... เหยยายคนนี้เอามุขเก่ามาใช้
ที่สำคัญคือการใช้ภาษาได้อย่างถูกต้องค่ะ
การเขียนอาจจะมีเนื้อความที่ดี ตื่นเต้น เร้าใจ
แต่ถ้า แบบฟอร์มผิด หรือ แกรมม่าผิด รูปประโยคผิด
โดยเฉพาะ การใช้ a an the มันไม่ควรผิดอะค่ะ
และการเติม s , es ด้วย
(ซึ่งเราผิดประจำ)

เราไม่รู้เกณฑ์การเขียนเรียงความของ BEC นะคะ
แต่ เรื่องพวกนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ควรจะผิดแล้วอะค่ะ อาจารย์ที่สอนเรา
ก็จำจี้จ้ำไช พูดให้ฟังตลอดเวลา (เซงนะเนี้ยะ)

ถ้าคุณ ฝึกฝนตลอด เป็นประจำจนคล่อง ก็จะไม่ต้องเสียเวลาในการตรวจเชค
เขียนประจำ ก็จะได้เขียนคล่อง เขียนเยอะก็ยิ่งคล่อง

เวลาสอบจริงๆ จะได้ไม่ตื่นสนามด้วยค่ะ
จับปากกาปุ๊บก็ นะ.... มีความมั่นใจมาหน่อยนึงล้วว่าเราฝึกเขียนบ่อยๆ
ที่บอกไป ก็ไม่ใช่ว่า เราทำได้ทั้งหมด 100% นะคะ
แต่คิดว่าคงเป็นคำแนะนำให้คุณได้ลองไปใช้ในการสอบ ในอนาคตอะค่ะ
----------------------------------
อีกอย่าง เรียนม.6 ก็ยังมีเวลา 1 ปี
ควรเปิดเวปไซต์มหาลัย หรือ คณะที่ต้องการเข้าดูบ่อยๆ

โดยเฉพาะ การสอบตรง เพราะ การเลื่อนสอบ
หรือเลื่อนรับสมัคร เขาอาจจะทำ โดยไม่แจ้งเราล่วงหน้า
คือประกาศในเวปไปเลย

ถ้าเราไม่ติดตาม เราก็เสียสิทธิ์นั้นไปเลย น่าเสียดายใช่มั้ยคะ

ส่วนเวลาทำข้อสอบ เห็นกระดาษมีหลายหน้าอย่าพึ่งตกใจค่ะ

ไม่มีสูตรนะค่ะ ว่าต้องทำจากหน้าแรก ไปหน้าหลังสุด
หรือจากหน้าหลังสุดมาหน้าแรก
แต่ควรทำ part ที่ถนัดก่อนนะค่ะ
ให้เสร็จทันเวลาก็พอ

อย่าประมาทด้วยค่ะ เวลาเหลือเยอะก็จริง

จำไว้ว่า .... คนที่ไปสอบ มี 3 ประเภท

1. คือ ไปสอบ และตั้งใจจะเข้าเรียนจริงๆ

2. ไปสอบเพราะลองสนาม ลองสอบเล่นๆ ติดก็ไม่เอา

3. พ่อแม่ให้ไปสอบ
เพราะฉะนั้น ไม่แปลกค่ะ ที่ประเภทที่ 2 และ 3 จะเดินออกจากห้องสอบ ก่อนหมดเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง หรืออาจจะมากกว่านั้น

(เวลาสอบ 3 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่บอกหน้าออกก่อน 2 ชั่วโมง แต่เอาเข้าจริง ชั่วโมงครึ่งบางคนก็เดินออกแล้ว)
พอเราเห็นคนทำเสร็จแล้ว อาจจะเกิดอาการโรคจิต หรือไซโค แบบที่คนในเวปนี้มาโพสคะแนน ขู่กัน
ตอนที่เราสอบ ก็รู้สึกว่า เหย ทำไมมันทำเสร็จเร็วจังวะ
ทำไมเรายังไม่เสร็จเนี้ยะ เหยต้องรีบแล้ว
อะไรประมาณนี้ ................. รีบ คือเร่งสปีดนะค่ะ แล้วตรวจทานด้วย
รู้ตามมาทีหลังจากคุณพ่อคุณแม่ว่า
เด็กที่ออกก่อน คือว่า .... ไม่ได้ตั้งใจมาสอบจริงๆ แค่มาสอบเล่นๆ
เพราะบ้านอยู่ไกล ไม่อยากอยู่หอ
บางคนพ่อแม่อยากให้มาสอบ ก็เลยมา(เราเคยเป็น)
หรือบางคน ได้อีกที่แล้ว แต่ก็ยังมาสอบ
มีหลากหลายประเภทค่ะ
อ่านแล้ว งง มั้ย
สงสัยจะยาวไป พิมพ์ไปได้ไงเนี้ยะ
ขอให้โชคดีแล้วกันนะคะ

 






©2008-2009 BEC COMMUNITY
BUSINESS ENGLISH COMMUNICATION [INTERNATIONAL PROGRAM] ] - THAMMASAT UNIVERSITY
WEBSITE AND DESIGN BY ISARAPAN BEC#1 | [email protected]